จอร์แดน (Jordan) ประเทศเล็กๆ แต่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน เป็นประเทศที่ผสมผสานระหว่างร่องรอยอารยธรรมโบราณ และธรรมชาติอันตระการตา ไม่ว่าจะเป็น เพตรา (Petra) นครหินแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวในหุบเขา ,เจราช (Jerash) เมืองแห่งโรมันโบราณ ,ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) กว้างใหญ่ หรือ ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) ทะเลสาบที่ไม่มีวันจม ทุกอย่างล้วนเป็นความอัศจรรย์ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมโบราณ สถานที่เหล่านี้ทำให้จอร์แดนเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากมาชมความงาม จนกล่าวได้ว่าเป็น "อัญมณีของตะวันออกกลาง (The GEM of Middle East)" ได้เลยทีเดียว

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-Khazneh/Trasury) หนึ่งในวัดที่ปราณีตที่สุดในเมืองเพตรา แห่งราชอาณาจักรนาบาเทีย(Nabateae) ชาวอาหรับอาศัยอยู่ในสมัยโบราณ ถูกสร้างด้วยการแกะสลักหินทราย เชื่อกันว่าเป็นที่เก็บพระศพกษัตริย์อาเรตัสที่ 4 เป็นหนุ่งในสถานที่ที่ได้นับความนิยมมากที่สุดทั้งในจอร์แดนและในภูมิภาคนี้

ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) ทะเลสาบที่ได้ชื่อว่ามีความเค็มที่สุดในโลก ด้วยความเค็มขนาดนี้ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆสามารถอยู่ในทะเลเดดซีนี้ได้ ยังมีอีกสมญานามหนึ่งว่าเป็น“ทะเลที่ไม่มีวันจม” ด้วยเนื่องจากความเข้มข้นของเกลือละลายอยู่สูงทำให้คนสามารถไปลอยน้ำในเดดซีได้อย่างสบายๆเลย !

พาทุกคนเข้าสู่เมืองอาคาบา (AQABA) เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัยของจอร์แดน เป็นเมืองที่ประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี เป็นเมืองที่ค่อนข้างทันสมัยแต่ก็มีการผสมผสานวัฒนธรรมของจอร์แดนอย่างลงตัว ลงเรือท้องกระจก(Glass Boat) นำน้ำดูปะการังและสัตว์ทะเล น้ำทะเลที่นี่ใสมาก และเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีชื่อเสียงมากๆอีกด้วย ทะเลที่นี้ครอบคลุมถึง 4 ประเทศ จอร์แดน, อิสราเอล, อียิปต์ และซาอุดิอาระเบีย

วิหารเทพีอาร์เทมิส (Temple of Artemis) อาร์เทมิส เทพีไดอาน่าเป็นเทพีผู้อุปถัมภ์ของเกราซา สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งที่ 4 ของยุคโบราณ วิหารแห่งนี้ มีการสร้างและถูกทำลายอยู่หลายครั้ง ณ เป็นอาคารปรักหักพังสุดแปลกตาทั้ง ซุ้มโคมไฟ, บ่อน้ำดื่มของม้า, ฝาท่อระบายน้ำ, น้ำพุใจกลางเมือง (Nymphaeum)

โรงละครโรมัน(Roman theatre) โรงละครแห่งนี้อายุ 2000 ปี เคยเป็นศูนย์กลางของอัมมาน ด้วยจุดเด่นของการวางแผนและวิศวกรรมโรมันอันชาญฉลาดและดีไซน์ที่น่าจดจำ สามารถจุคนได้ประมาณ 6000 คน นักท่องเที่ยวนิยมไปยืนบนเวทีแล้วตะโกนออกมาเพื่อพิสูจน์ความดังกึกก้องทั่วโรงละคร

ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) หรือเรียกกันอีกชื่อว่า หุบเขาแห่งพระจันทร์(The Valley of the moon) ทะเลทรายแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีภาพเขียนฝาผนังของมนุษญ์ยุคโบราณหลายจุด แสดงให้เห็นความเป็นอยู่ของมนุษย์สมัยนั้น กิจกรรมยอดฮิตนั้นก็คือ นั่งกระบะเปิดหลังคารับบรรยากาศทะเลทราย หรือจะขี่อูฐชมวิวก็สวยงามไม่แพ้กัน